งานสังสรรค์ น้องพี่ ชมท.

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสาร ชมท. สัมพันธ์

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

          พี่ ๆ เพื่อน ๆ คะ สำหรับบล็อกหน้านี้ ขอเปิดไว้เป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งข่าวคราว ข้อมูลข่าวสารถึงกันและกันค่ะ  เรายินดีต้อนรับสมาชิก ชมท. ทุกท่าน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  และขออนุญาตเป็นลื่อกลางในการสื่อสารระหว่างพวกเรา
          มาดูกฎกติกาในการใช้กันเลยดีกว่า ค่ะ
  1. กรอกข้อความที่ต้องการสื่อสาร ลงบนกล่องแสดงความคิดเห็น
  2. เลื่อกโปรไฟล์ ที่อยู่ใต้กล่อง เช่น จากบัญชีผู้ใช้ Google (กรณีมีบัญชี Gmail)  หรือ เลือก ชื่อ/URL (กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องกรอก url ก็ได้  แต่ต้องใส่ชื่อผู้กรอกความคิดเห็น) 
  3. ข้อความที่ส่งมาระบบจะตรวจสอบความคิดเห็นโดยผู้ดูแลบล็อกก่อน  เพื่อป้องกันสแปม หรือข้อความที่ไม่สุภาพ โฆษณาขายสินค้า ฯลฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ชมท.  หลังจากนั้นจึงนำขึ้นเผยแพร่
  4. ข้อความที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้แสดงความคิดเห็น หรือไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้ จะไม่นำขึ้นเผยแพร่



วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

มีใครมาบ้างในงานรวมใจน้องพี่ ชมท. ครั้งที่ 2

            เมื่อบล็อกที่ผ่านมาเราได้นำเสนอสาระต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้สนทนากัน  สำหรับบล็อกนี้ขอนำรูปเดี่ยวของพี่ ๆ เพื่อน ๆ แต่ละคนที่มาในงาน มาให้ทุกท่านได้ชมกัน  ใครเป็นใครบ้าง?  เราพอจะจำหน้าจำตากันได้หรือยังคะ  มาทดสอบความจำจากรูปถ่ายด้านล่างนี้นะคะ



เพื่อน ๆ พี่ ๆ คลิกที่ภาพเลยนะคะ จะได้ชมภาพเคลื่อนไหว Test Test your memory.

ขอแถมสุดท้ายรายชื่อผู้มาร่วมงานทุกคน มีรายละเอียดที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ e-mail  เรียบร้อยค่ะ  คลิกลิงค์นี้  เพื่อ download มาดูเลยค่ะ   หากมีข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อน กรุณาแจ้งทีมงานผู้ดูแลบล็อกได้ที่ e-mail : muslim.mahamek@gmail.com


มีอะไรบ้างในงานรวมใจน้องพี่ ชมท. (ภาค 4)

ต่อจากตอนที่แล้วนะคะ  คราวนี้หลังพวกเรานมาซมักริบเรียบร้อยแล้ว ต่างก็เริ่มทยอยกันเข้ามาที่ห้องประชุม  บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย สบาย ๆ ใครอยากคุยอะไรก็พูดคุยกัน  จับประเด็นสำคัญที่พี่ ๆ น้อง ๆ สนทนากันด้วยความสนิทสนมรักใคร่กัน ได้ดังนี้ค่ะ  เราเริ่มต้นที่พี่ปรีชาก่อนที่ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่กลุ่ม

พี่ปรีชา ศรีจรูญ  “ผมอยากเสนอว่า ในการจัดงานคราวต่อไป น่าจะไปใช้สถานที่ของสหายอิสลามสมาคม  ที่ถนนสุโขทัย (ซึ่งพวกเรารู้จักกันในนามของสถานที่ทำการของสมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม หรืออสนท.) บ้าง  จัดตอนช่วงบ่าย ๆ มีการออกร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว คนละนิดละหน่อยมาร่วมงานกัน รื้อฟื้นบรรยากาศเก่า ๆ คืนมา  (พี่สุเทพฯ ถามว่า สนท. เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของใคร พี่ปรีชา ตอบว่า เมื่อก่อนนี้ที่ สนท.มาใช้ที่ทำการที่สหายอิสลาม เพราะว่าสหายอิสลามเค้าไม่มีกิจกรรมใด ๆ ก็จึงอนุญาตให้ สนท. เข้าไปใช้เป็นสถานที่ทำการ  แต่ตอนนี้ สนท.ก็ได้ย้ายที่ทำการไปอยู่ที่สนามกีฬาแห่งชาติ) พี่ปรีชา กล่าวว่า  ตอนนี้อยากเจอมาก คือ พี่วีณา หมัดป้องตัว,  เรณู ชุมสาย,  ลมัย งามมานะ [ อ้าว ๆ ใครพบตัวบอกพี่เค้ามารายงานตัวด้วยค่ะ ใครมีเบอร์โทรของพวกเรา ก็ช่วยฝากไว้ที่ฝ่ายทะเบียน (จิ๋ม) ด้วย ]

พี่โต ประทีปสุวรรณ  แอบชมพี่ปรีชาให้เราฟังว่า “พี่ปรีชา คือ ตำนานของผม ในสายตาของผมที่ได้รู้จักพี่ปรีชาตอนแรก  พี่โตบอกว่า หล่อและแต่งกายเนี๊ยบมาก เหมือน อเลนเดอรองซ์ เลยทีเดียวครับ 


พี่ดนัย ยุทธมนตรี กล่าวเสริมว่า “สำหรับผมแล้ว พี่ปรีชา และพี่โต คือ ตำนานของผมเหมือนกัน  ตอนนั้นเวลาใครเข้ามา สนท. พี่โต พี่ปรีชาจะเข้ามาดูแลเท่าที่ทำได้ พี่ทั้งสองคนเป็นพี่ที่พวกเราเคารพนับถือ  ผมดีใจที่ได้มีโอกาสมาพบพี่ ๆ อีก”

มีอะไรบ้างในงานรวมใจน้องพี่ ชมท. (ภาค 3)

เมื่อครั้งที่แล้วเรายังคุยกันไม่จบเลยค่ะ  ว่ากันต่อจาก ภาค 2 เลยนะคะ (อิ อิ สงสัยตอนนี้สุดท้ายแล้ว เย้)
น้องอารซู มาทวี  เล่าให้ฟังว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้เรียนที่เทคนิคกรุงเทพฯ เพราะเทคนิคกรุงเทพฯ ให้เราทั้งเรื่องการเรียนรู้ชีวิตและการทำกิจกรรม  ตอนผมเรียนเทคนิคกรุงเทพฯ ผมได้เป็นประธานค่ายอาสาพัฒนา  หลังจากจบจากเทคนิคกรุงเทพฯ แล้ว ผมก็ไปเรียนต่อที่เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  แต่ปรากฏว่าความสนิทสนมและความใกล้ชิดนั้นต่างกันมาก ทางเทคนิคกรุงเทพฯ เรามีความสัมพันธ์กันมากกว่า และปัจจุบันเรายังติดต่อสัมพันธ์กัน 
            ชีวิตการทำงานปัจจุบันผมเป็นเจ้าของบริษัทออกแบบดีไซน์ จัดงานตกแต่งใน Event ต่าง ๆ ออกแบบเวที ออกแบบ Logo  เมื่อผมเรียนจบก่อสร้าง แล้วก็ไปต่อปริญญาโทโยธา  แต่สิ่งที่ได้รับจากการทำกิจกรรม  มันทำให้เรามองออกว่า “เราชอบอะไร”  เราจึงต้องแยกให้ออกระหว่างการศึกษากับสิ่งที่เราชื่นชอบ  เด็กที่ได้ทำกิจกรรมกับเด็กที่เรียนอย่างไม่ได้ทำกิจกรรม  แม้จะจบปริญญาโทมา  ผมเห็นว่าเวลามีอาชีพการงานจะต่างกันส่วนใหญ่ได้เป็นเพียงพนักงานบริษัท  การทำกิจกรรมมันสอนให้เรารู้จักกล้าที่จะแสดงความเห็นกล้าแสดงออก  เวลาทำงานอะไรมันก็ง่ายขึ้น  ในการทำงานมันเริ่มที่ความศรัทธา ศรัทธาในตัว ศรัทธาในพระเจ้า  อาชีพที่ผมทำ ผมทำโดยไม่มีทฤษฎีอะไร แต่ก็ได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองชอบ ตนเองเชื่อ  ดังนั้น ผมจึงนำความฝันของผมไปขายเจ้าของกิจการ แล้วเค้าก็ให้ทุนผมมาทำงานให้เค้า  ผมจึงขอบอกว่า  การทำกิจกรรม การที่เราได้เป็นผู้นำ มันตอบโจทย์การทำงานต่าง ๆ แก่เราว่าสามารถจะทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จได้จริง  ด้วยการเรียนรู้จากการทำกิจกรรม ไม่ใช่แต่เฉพาะการเรียนรู้ในห้องเรียน
            สำหรับความรู้สึกที่ได้มาร่วมสังสรรค์กับพี่ ๆ ชมท. รุ่นเก่าในวันนี้  ผมนั่งอมยิ้ม ผมประทับใจมาก ดีใจที่ได้มาพบรุ่นพี่อาวุโส ซึ่งแต่ละคนจบมาปี 2516 นี่ผมยังไม่ได้เกิดเลย พบโชคดีมากที่ได้พบพวกพี่ ได้มาทานข้าวด้วยกัน  (พี่นุช ถามว่าจากการที่ได้มาสัมผัสรุ่นพี่ในครั้งนี้  น้องพอจะสัมผัสได้ระหว่างความสัมพันธ์ของพี่รุ่นเก่า ๆ  กับความสัมพันธ์ของ ชมท. รุ่นใหม่  น้องได้รับความรู้สึกที่เหมือนกันหรือไม่) ...  น้องอารซู  กล่าวต่อว่า  ที่เทคนิคกรุงเทพฯ นั้น เราได้รับความจริงใจต่อกันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  (muslim.mahamek ต้องขออนุญาตจบลงเท่านี้ก่อนนะคะ ด้วยเหตุที่เครื่องบันทึกไม่สามารถได้ยิน T_T )

คุณนิรมาน นุนาบี  คนนี้ที่จริงจิ๋มต้องเรียกว่าพี่  เพราะเพิ่งมาฟังเทปที่บันทึกไว้ว่า  พี่เค้าเรียนรุ่นเดียวกับพี่พล  แต่เรียนภาคค่ำ  หลังจากให้สลามพวกเราเรียบร้อยแล้ว พี่นิรมานก็รายงานตัวเลยค่ะว่า  ชื่อนิรมาน ศาสนวิบูลย์  แต่ (เอะเอ๊ะ) ตอนนี้ได้เปลี่ยนนามสกุลแล้ว มาใช้ “นุนาบี”   ปัจจุบันมีนิวาสถานอยู่ที่หนองจอก แถวลำผักชีค่ะ  พี่นิรมานขอบคุณพระองค์ที่เมตตาให้พวกเราได้มาพบกันอีก  เนื่องจากหลังจากจบเทคนิคมาแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกับใครอีก  แต่เมื่อประมาณ  2 - 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเจอวรพลที่มัสยิดแถวอ่อนนุช  พลรีบเข้ามาทัก “ดะห์จำพลได้หรือเปล่า”   หลังจากนั้นไม่นานเธอจึงได้มีโอกาสมาร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งงานของพี่พล

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

มีอะไรบ้างในงานรวมใจน้องพี่ ชมท. (ภาค 2)

บิสมิลลาฮ์ เราเริ่มเปิดงานด้วยการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์กุรอาน โดยพี่จั่น (สาวิตรี เชวงวรรณ) ค่ะ  ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าในงานสังสรรค์ของเราได้มีใครพูดคุยอะไรกันบ้างในงาน??  ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่างานนี้ขออนุญาตสรุปเอาแต่เนื้อ ๆ เฉพาะพี่ ๆ และเพื่อนที่มาร่วมงานเป็นครั้งแรกนะคะ และบางท่านก็ไม่ได้สรุปไว้  เนื่องจากบางทีก็ลืมกด mp3  เพื่อบันทึกถ้อยคำไว้  ต้องงขอ มะอัฟด้วยค่ะ  พี่ที่เคยมาเมื่อการจัดงานสังสรรค์ครั้งแรกอย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจนะคะ  เพราะงานนี้ส่วนใหญ่เราจะเปิดโอกาสให้คนใหม่ได้พูดค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

พี่วิริทธิ์พล (สุรพล) ภุมราพันธ์ ถ้าจิ๋มจำไม่ผิดรู้สึกว่าพี่จะมาเป็นคนแรก ๆ เลยทีเดียว (แต่ไม่ทราบว่ามาก่อนพี่โตหรือเปล่านะคะ) พี่วิริทธ์พลเป็นคนสนุกสนานรื่นเริง พี่เค้าดีใจตั้งแต่ที่เจอพวกเราในงานแต่งงานพี่วรพลแล้ว  พอรู้ว่าเราสังสรรค์กันมาครั้งหนึ่งแล้ว  พี่วิริทธิ์พลก็ยิ่งอยากมาร่วมงานกับเราในครั้งที่ 2  คอยเวลาว่าเมื่อไรพวกเราจะจัดงานอีก  สำหรับวันนี้ประเด็นที่พี่กล่าวกับเรา และย้ำหลายครั้ง ก็คือ ดีใจที่ได้มีโอกาสมาเจอพวกเราอีก  ซึ่งโดยปกติแล้วพี่ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสพบใคร  นอกจากตระเวนเยี่ยมรุ่นพี่ ๆ เช่น พี่ปรีชา พี่โต บางครั้งถ้ามีเวลาก็จะแวะมาเยี่ยมพี่โตที่ปั๊มพ์ดาวโต ของพี่โตเอง ตามโอกาสที่จะอำนวยให้  ล่าสุดได้เจอวรพลตอนที่เค้าทำงานด้าน Security ก็ดีใจ  เราจึงได้ติดต่อกันมาเรื่อย จนกระทั่งเค้าได้แต่งงาน พี่่ก็ดีใจที่ได้มาร่วมงาน แล้วก็ได้เจอพวกเราที่เคยทำงานร่วมกัน บางครั้งทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างก็เป็นธรรมดาของการทำงานด้วยกัน แต่แล้วเราก็ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่  ซึ่งมิตรภาพนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านพ้นไปก็ตาม  (ประทับใจค่ะ คำพูดของพี่ที่ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท้ายที่สุดแล้วเราก็เป็นเพื่อนกันเสมอ)

พี่สุขุม เด่นประภา ได้เล่าให้พวกเราฟังว่า  รอมฎอนที่ผ่านมาพี่ตั้งใจจะทำอะมั้ลให้เต็มที่ แต่ปรากฏว่าเกิดเจ็บป่วยอย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน  เนื่องจากพี่วิเคราะห์โรคเอง จากการที่พี่มีอาการปวดท้อง ปวดหลังอยู่บ่อย ๆ  พี่ก็คิดว่าคงเป็นสัญญาณเตือนให้ทราบว่าตัวเองกำลังจะเป็นเบาหวาน  ก็เลยเลิกทานของหวาน  ผลไม้ก็ทานบ้างนิดหน่อย  เวลามีอาการปวดมาก ๆ ก็ไปหาหมอซะที  แล้ววิเคราะห์โรคเองเลย  โดยที่คุณหมอยังไม่ทันบอกว่าเป็นอะไร  ก็ขอยาคลายเส้นจากคุณหมอซะแล้ว  คุณหมอก็ว่าไม่ใช่

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ภาพรวมมิตรเก็บตก

วันนี้นำภาพเก็บตกของพวกเรามาฝากให้ดูค่ะ
  • แต่งงานพี่วรพล นันทศิลป์

    (พี่ ๆ เพื่อน ๆ คะ มีภาพถ่ายกิจกรรม ของ เพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย คลิกลิงค์ด้านซ้ายมือ เพื่อเข้าสู่บทความเลยค่ะ)

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

มีอะไรบ้างในงานรวมใจน้องพี่ ชมท. (ภาค1)


            เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างในงานรวมใจน้องพี่ ชมท. ครั้งที่ 2 อัลฮัมดุลิลลาฮ์  ต้องขอชุโกรต่อพระองค์  งานนี้เราประสานงานได้พี่ ๆ และน้อง ๆ มาร่วมงานเพิ่มขึ้นอีกหลายคน   ที่เป็นศิษย์เก่า ชมท. รุ่น    ดั้งเดิม ก็มี  (1) พี่วิริทธิ์พล (สุรพล) ภุมราพันธ์ (2) พี่สุพจน์ ปราชญากุล (3) พี่สุขุม เด่นประภา (4) พี่ปิยะนาถ หวังภักดี [หรือที่พวกเรารูจักกันในนาม ของ พี่ลมูล มะลูลีม] (5) พี่สมหมาย หมื่นนรินทร์ (6) พี่สุภาพ ชื่นสุขจิตต์ (7) พี่ดนัย ยุทธมนตรี และ(8) คุณนิรมาน นุนาบี (ศาสนวิบูลย์)   นอกเหนือไปจากนี้เรายังได้น้องศิษย์เก่ารุ่นเล็กมาร่วมงาน อีก 1 ท่าน   คือ น้องอารซู มาทวี (รุ่น 2540) 

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

งานรวมใจน้องพี่่ ชมท. ครั้งที่ 2

          เมื่อคราวจัดงานสังสรรค์ น้องพี่ ชมท. ครั้งที่ 1 พวกเราได้ตกลงและหารือกันเกี่ยวกับเรื่องการพบปะของกลุ่ม ว่าควรจะเว้นระยะห่างในการจัดงานเท่าไรดี ก็ได้ข้อสรุปว่า "พวกเราจะนัดเจอกันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง" ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นหลังเดือนรอมฎอนผ่านไปแล้ว

          ดังนั้น ในครั้งที่ 2 นี้ เราจึงได้จัดงาน "รวมใจน้องพี่ ชมท. ครั้งที่ 2" ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553 ขึ้น     ณ โรงแรมรีเจ้นท์ รามคำแหง (ครั้งต่อไปจะจัดที่ใดนั้น ขอให้พี่ ๆ เพื่อน ๆ ลองสำรวจทำเลดูนะคะ ว่ามีที่เหมาะสมบ้าง จะได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อย ๆ แอะ แอะ หรือใครอยากให้จัดทัวร์ไปเชียงใหม่ ก็ลองประสานรายละเอียดไปที่พี่สุภาพฯ เจ้าของรีสอร์ทใหญ่ค่ะ อิ อิ *-*)

          เรามีเอกสารแจกผู้เข้าร่วมงานทุกครั้ง เพื่อติดไม้ติดมือกลับไปบ้าน (เอะ เอ๊ะ ไม่รู้พี่ ๆ เปิดอ่านหรือป่าว??)  ซึ่งสอดแทรกบทความ ข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นการเสริ้มสร้างความรู้ และความศรัทธาให้แก่พวกเรา (แต่มิบังอาจสอนพวกพี่ ๆ นะคะ เพราะผู้ที่สอนและให้ทางนำที่ถูกต้องให้แก่เราได้ มีแต่พระองค์ ผู้ทรงเอกะเพียงผู้เดียว)

         ใครอยากได้ของฝากจากงานรวมใจของเรา คลิกเพื่อ Download เอกสารได้เลยค่ะ

         หากต้องการติดตามเรื่องราวต่อเนื่อง คลิกลิงค์นี้เพื่อเข้าสู่เนื้อหาบทความ "มีอะไรบ้างในรวมใจน้องพี่ ชมท. (ภาค 1) นะคะ :))

มนุษย์ขาดทุน

มนุษย์ผู้ขาดทุน
  โดย : Binti Ismaeil
      บิสมิลลาฮฺ ฮิรฺเราะฮฺมานิรร่อฮีม วัลอัศริ อินนัลอินซานะละฟีคุซร์...”   (ซูเราะฮ์อัล-อัศริ)
      ในซูเราะฮ์นี้พระองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ทรงสาบานด้วยกับกาลเวลา ความว่า..   ขอสาบานด้วยกับกาลเวลา  แท้จริง มนุษย์นั้นอยู่ในการขาดทุน  นอกจากบรรดาผู้ศรัทธา และกระทำความดี  และตักเตือนซึ่งกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม  และตักเตือนซึ่งกันและกันให้มีความอดทน
เพื่อน ๆ เคยใคร่ครวญโองการนี้บ้างไหม? ว่า  ทุก ๆ วินาทีที่เราได้หายใจนั้น  เป็นต้นทุนของจิตวิญญาณเราทั้งสิ้น  และที่สำคัญกว่า ก็คือ อายุขัยของเราที่ถูกใช้ให้หมดไปวัน ๆ หนึ่ง  เดือนหนึ่ง  ปีหนึ่ง  เราได้สะสมเสบียงหรือผลกำไรที่จะรอรับในชีวิตใหม่อันนิรันดร์เพียงใด  หรือเราได้ใช้เวลาและร่างกายของเราให้หมดไปกับสิ่งไร้สาระ  การแสวงหาผลประโยชน์ การกอบโกยสิ่งต่าง ๆ เพียงเพื่อความสุขสำราญในดุนยา กระนั้นหรือ?  เราลองคำนวณต้นทุนกำไรของชีวิตดูซิว่า...  ตอนนี้เราได้ขาดทุนไปแล้วเท่าไร?!!   และเราจะใช้ช่วงเวลาในชีวิตของเราเพื่อทำกำไรได้อีกแค่ไหน??  ไม่ช้าไม่นาน ไม่แน่นอน  วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวินาทีต่อไป   มันอาจจะถึงเวลาที่ต้นทุนซึ่งพระเจ้าให้มาหมดสิ้น  และลมหายใจก็หมดลง  ไม่มีโอกาสจะหายใจอีกแล้ว   ถึงแม้ว่าในโลกนี้ยังมีอากาศให้หายใจ  แล้วจะทำอย่างไรดีเล่า??  ถ้าเราไม่เคยสร้างสมผลกำไรให้แก่ชีวิตและจิตวิญญาณ  มีแต่แสวงหาผลประโยชน์ให้กับร่างกาย  ซึ่งไม่นานมันก็กลับกลายเป็นดินเหมือนเช่นเดิม  แล้ว ฟิตเราะฮ์ เดิมที่พระองค์ให้มานั้นเล่า!!  ท่านเอาไปทิ้งไว้เสียที่ไหน??   การสำนึกใน    เตาฮีด (เอกภาพ) ของพระองค์  ความยำเกรง ในพระองค์  ความสำนึก ในบุญคุณ  และความเมตตาปรานีอันล้นเหลือที่พระองค์ทรงประทานให้แก่มนุษย์  สิ่งถูกสร้างที่ดีเลิศของพระองค์  อยู่ไหนกันเล่า??  เราจะต้องพยายามเรียกสิ่งเหล่านี้กลับมาให้ได้  ก่อนที่ต้นทุนของเราจะหมดลง  แล้วถึงเวลานั้นวันแห่งวันตัดสินและตอบแทน  เราทุกคนจะได้ลุกขึ้นยืนต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ได้อย่างสง่างาม

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

เกร็ดชีวิตชาว ชมท.

           ในงานสังสรรค์ น้องพี่ ชมท. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2552  ณ โรงแรมนิวเวิลด์ ซิตี้ (ลอดจ์) บางลำพู กรุงเทพฯ  นั้น ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวกันเป็นครั้งแรกของเหล่าศิษย์เก่า ชมทที่เป็น ชมท. รุ่นแรก รุ่นเดิม รุ่นเก๋า  ที่ต้องขออนุญาตเรียกพวกเราเช่นนี้เพราะเหตุว่า น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ รุ่นปัจจุบันนั้น เค้ายังเกาะกลุ่มกับศิษย์เก่าซึ่งอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน ห่างปีกันไม่มากนัก แต่ก็ทิ้งช่วงกันถึง 10 กว่าปี (ถึงประมาณรุ่นปี 2540)  ถือว่ามากทีเดียว แต่พวกเค้าก็ยังเหนียวแน่นกันอยู่อย่างน่าชม
          พวกเรารุ่นเก๋า ห่างหายจากกันไปเป็นนานถึง 30 กว่าปี  พอมาเจอกันครั้งแรกต่างก็ตื่นเต้นดีใจที่ได้พบกันอีก  เฮ้อ...นึกว่าจะไม่ได้เจอกันเสียแล้ว เวลากว่าาา 3 ทศวรรษ เปลี่ยนชีวิตคน เปลี่ยนทัศนคติ ความคิด มุมมอง จากประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งก็คือการทดสอบจาก อัลลอฮ์ (..) นั่นเอง  พระองค์ทรงสอนให้เราเก่งขึ้น แกร่งขึ้น พัฒนาตัวตนไปสู่ความเป็น "มนุษย์ผู้สมบูรณ์" แสวงหาความใกล้ชิดยังพระองค์มากขึ้น  เรื่องราวของแต่ละคนต่างก็ถ่ายทอดให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ฟังกัน ในงานสังสรรค์ครั้งนี้  เราจึงขอเรียกส่ิ่งต่างๆ เหล่านี้ว่า "เกร็ดขีวิตชาว ชมท."  ซึ่งทางกลุ่มผู้ประสานการจัดงานครั้งนี้ ได้รวบรวมไว้เป็นบันทึกความทรงจำ ตามที่ได้แจกให้ทุกท่านที่มาร่วมงานไปแล้ว
          ดังนั้น ในโอกาสที่ได้จัดทำเว็บบล็อก "รวมใจน้องพี่ ชมท." ขึ้นมา  เพื่อเป็นเวทีสำหรับการสื่อสาร  ส่งข่าวคราว เชื่อมความสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน  ผู้จัดทำบล็อกจึงขออนุญาตพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในการนำบันทึกความทรงจำฉบับนี้ upload ลงบนเว็บบล็อกนี้   เพื่อว่าเพื่อน ชมท. ท่านอื่นที่ไม่ได้มาร่วมงานจะได้รับทราบเรื่องราวต่าง ๆ ของแต่ละคน และในโอกาสต่อไปพวกเค้าจะได้นำเรื่องราวของตนเองมาถ่ายทอดให้เราได้ฟังเช่นกัน  อิ อิ 
            หากต้องการอ่านรายละเอียดในบันทึกความทรงจำ คลิกเล้ย !!!

มาดูหน้าดูตากันดีกว่า ใครมาร่วมงานสังสรรค์น้องพี่ ชมท. ครั้งที่ 1

มาแล้วจ้า ภาพถ่ายรายบุคคลที่มาร่วมงาน มี 20 ชีวิต  เชิญชมกันได้เลยค่ะ 



ขอค่ะ ถ้าพี่ ๆ อยากชมภาพเดี่ยวให้เห็นกันเต็ม ๆ เป็นรายบุคคล เชิญคลิกลิงค์ด้านล่างนะคะ
คลิกเพื่อดูภาพ Slide show กันเลยดีกว่า :))

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทำเนียบรุ่น น้องพี่ ชมท. 1

ทำเนียบรุ่น น้องพี่ ชมท. 1 คือ ทะเบียนสมาชิก ชมท. ที่มาร่วมงานสังสรรค์ น้องพี่ ชมท. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2552  ณ. โรงแรมนิวเวิลด์ ซิตี้ (ลอดจ์) บางลำพู กรุงเทพฯ  งานนี้มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ มาร่วมงานรวม 20 ท่าน พี่โต มาถึงเป็นคนแรกเลยย...เย้

Download รายชื่อ คลิกที่นี่

ถ้อยแถลงในการจัดงาน ครั้งที 1 (วันที่ 27 กันยายน 2525)


ถ้อยแถลงความเป็นมาในการจัดงาน
พวกเรา ชมท.ได้ห่างไกลจากการติดต่อสื่อสาร และไม่มีโอกาสพบปะกันมานานเป็นเวลาร่วม 34 ปี  ต่างคนก็ต่างมีภารกิจการงาน  ครอบครัวที่จะต้องรับผิดชอบ  ทำให้ความสัมพันธ์ของเราดูเหมือนจะห่างเหิน  ไม่ใกล้ชิดเหมือนเช่นเคยเป็นมาในอดีต  นุช & จั่น ได้หารือกันและมีความคิดริเริ่มที่จัดงานพบปะกันระหว่างพวกเรา มาเป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถลงตัวได้สักที   พอได้มีโอกาสมาเจอกับจิ๋มทำให้เราเกิดกำลังใจที่จะจัดงานนี้ขึ้นมาอีกครั้ง   เนื่องจากได้กำลังคนเพิ่มเข้ามาช่วยสานต่องาน  ผนวกกับมีกำลังสนับสนุนจากเรวัต  ทำให้งานนี้เสร็จสมบูรณ์ลงได้  เพราะแท้จริงพระองค์ทรงสร้างชายให้คู่กับหญิง  ทั้งสองต่างมีคุณลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน  หากได้นำมารวมกันนั่น คือ ความสมบูรณ์ที่พระองค์ทรงสร้างมา
ขอชุโกรต่อพระองค์  ที่ให้การจัดงานครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมบูรณ์เกินความคาดหมาย   และขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกท่านที่ได้เห็นคุณค่าของการจัดงานในครั้งนี้  โดยเสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมงานกันอย่างอบอุ่น  ทำให้เราได้รับบรรยากาศเก่า ๆ ที่ดีงามกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์
                                                                      วัสสลามฯ
                                                         นุช + จั่น + เรวัต + จิ๋ม
                                                         ผู้ประสานงานฯ