มนุษย์ผู้ขาดทุน
โดย : Binti Ismaeil
“บิสมิลลาฮฺ ฮิรฺเราะฮฺมานิรร่อฮีม วัลอัศริ อินนัลอินซานะละฟีคุซร์...” (ซูเราะฮ์อัล-อัศริ)
ในซูเราะฮ์นี้พระองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ทรงสาบานด้วยกับกาลเวลา ความว่า.. “ขอสาบานด้วยกับกาลเวลา แท้จริง มนุษย์นั้นอยู่ในการขาดทุน นอกจากบรรดาผู้ศรัทธา และกระทำความดี และตักเตือนซึ่งกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม และตักเตือนซึ่งกันและกันให้มีความอดทน”
เพื่อน ๆ เคยใคร่ครวญโองการนี้บ้างไหม? ว่า ทุก ๆ วินาทีที่เราได้หายใจนั้น เป็นต้นทุนของจิตวิญญาณเราทั้งสิ้น และที่สำคัญกว่า ก็คือ อายุขัยของเราที่ถูกใช้ให้หมดไปวัน ๆ หนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง เราได้สะสมเสบียงหรือผลกำไรที่จะรอรับในชีวิตใหม่อันนิรันดร์เพียงใด หรือเราได้ใช้เวลาและร่างกายของเราให้หมดไปกับสิ่งไร้สาระ การแสวงหาผลประโยชน์ การกอบโกยสิ่งต่าง ๆ เพียงเพื่อความสุขสำราญในดุนยา กระนั้นหรือ? เราลองคำนวณต้นทุนกำไรของชีวิตดูซิว่า... ตอนนี้เราได้ขาดทุนไปแล้วเท่าไร?!! และเราจะใช้ช่วงเวลาในชีวิตของเราเพื่อทำกำไรได้อีกแค่ไหน?? ไม่ช้าไม่นาน ไม่แน่นอน วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวินาทีต่อไป มันอาจจะถึงเวลาที่ต้นทุนซึ่งพระเจ้าให้มาหมดสิ้น และลมหายใจก็หมดลง ไม่มีโอกาสจะหายใจอีกแล้ว ถึงแม้ว่าในโลกนี้ยังมีอากาศให้หายใจ แล้วจะทำอย่างไรดีเล่า?? ถ้าเราไม่เคยสร้างสมผลกำไรให้แก่ชีวิตและจิตวิญญาณ มีแต่แสวงหาผลประโยชน์ให้กับร่างกาย ซึ่งไม่นานมันก็กลับกลายเป็นดินเหมือนเช่นเดิม แล้ว ฟิตเราะฮ์ เดิมที่พระองค์ให้มานั้นเล่า!! ท่านเอาไปทิ้งไว้เสียที่ไหน?? การสำนึกใน เตาฮีด (เอกภาพ) ของพระองค์ ความยำเกรง ในพระองค์ ความสำนึก ในบุญคุณ และความเมตตาปรานีอันล้นเหลือที่พระองค์ทรงประทานให้แก่มนุษย์ สิ่งถูกสร้างที่ดีเลิศของพระองค์ อยู่ไหนกันเล่า?? เราจะต้องพยายามเรียกสิ่งเหล่านี้กลับมาให้ได้ ก่อนที่ต้นทุนของเราจะหมดลง แล้วถึงเวลานั้นวันแห่งวันตัดสินและตอบแทน เราทุกคนจะได้ลุกขึ้นยืนต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ได้อย่างสง่างาม
ท่านอะลี อิบนิ อบีฏอลิบ กล่าวว่า “อัลฟิกรุ อิบาดะฮ์ การคิด คือ อิบาดะฮ” การคิดใคร่ครวญเพียง 1 ชั่วโมง มีผลบุญมากกว่าการทำอิบาดะฮ์ถึง 70 ปี
คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวถึงเรื่องการคิดใคร่ครวญ ไว้ดังนี้
“คัมภีร์ที่เราได้ประทานลงมาให้แก่เจ้า อันเป็นคัมภีร์อันจำเริญ เพื่อพวกเขาจะได้ใคร่ครวญในโองการต่าง ๆ ของคัมภีร์ และเพื่อบรรดาผู้มีวิจารณญาณทั้งหลาย จะได้สำนึก” (บท ศอด : 29)
เพื่อน ๆ ที่รัก เราขอเรียกร้องเชิญชวนท่าน ได้โปรดแบ่งเวลาของท่านที่ยังคงมีเหลืออยู่ ณ ขณะนี้ ในแต่ละวันจงหาเวลาสงบ ๆ เงียบ ๆ พูดคุยกับพระองค์ตามลำพัง ช่วงเวลาหลังนมาซ มักริบ หรือศุบฮิ น่าจะดีที่สุด ทบทวนตัวเองในแต่ละวันว่า วันนี้หรือเมื่อวานนี้เรามีข้อผิดพลาดบกพร่องอะไรบ้าง ที่เป็นการฝ่าฝืนพระองค์ หรือเราได้กระทำสิ่งใดให้พระองค์ไม่ทรงพึงพอพระทัย จงสำนึกผิดและขออภัยโทษต่อพระองค์
ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า “อันนะดะมุเตาบะฮ์ การสำนึกผิด คือ การกลับตัว”
ดังนั้น พวกเราจงวิงวอนเถิด ขออภัยโทษจากพระองค์ ขอความเมตตาจากพระองค์ ขอให้วันนี้ของทุก ๆ วัน หลังจากที่เราได้ตายไปแล้ว และพระองค์ได้ให้โอกาสเราฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้งในตอนเช้า ขอให้ทุก ๆ วันของวันนี้ จงเป็นวันที่ดีกว่าเมื่อวานนี้ เป็นวันที่เพิ่มพูนแต่ความดีงาม เป็นวันที่เราได้ก้าวเดินเข้าไปใกล้ชิดยังพระองค์มากขึ้น และเป็นการก้าวเดินที่ถูกทิศถูกทาง ไม่ใช่การก้าวเดินของผู้ที่หลงทาง ซึ่งไม่มีวันที่จะพบกับจุดหมายปลายทางที่เที่ยงตรง และขอพระองค์ได้โปรดลิขิตให้เราเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ขออภัยโทษต่อพระองค์ และเป็นผู้ขอบคุณพระองค์
“ซุบฮานะกะยาเฆาะฟูร ตะอาลัยตะยาชะกูร อะญิรนามินันนาริยามุญีร”
“ทรงบริสุทธิ์ยิ่ง โอ้ผู้ทรงอภัยโทษ ทรงสูงส่งยิ่ง โอ้ผู้ทรงขอบคุณ โปรดปกป้องพวกเราให้พ้นจากไฟนรกด้วยเถิด โอ้ผู้ทรงให้การคุ้มครอง”
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น